ธรรมชาติของคนเรากลัวความขัดแย้ง เราจึงหลีกเหลี่ยงการโต้เถียงซึ่งอาจมีประโยชน์เพียงเพราะกลัวว่าบรรยากาศตึงเครียดจะทำให้อารมณ์ของอีกคนพุ่งสูงขึ้น จนไม่สามารถรับมือได้
แต่หลายครั้งเมื่อเริ่มต้นทำธุรกิจหรือโปรเจ็คใดโปรเจ็คหนึ่ง ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้น เมื่ออีกฝ่ายมีภาพในหัวเกี่ยวกับเป้าหมายและความสำเร็จที่แตกต่างกัน สิ่งที่หลีกเหลี่ยงไม่ได้คือการต้องเจรจา ต่อรอง หากเราหนีความขัดแย้งทุกครั้ง ทำแบบนั้นก็ไม่อาจแก้ปัญหาทั้งสองฝ่ายได้จริง ๆ ผลเสียคือไม่ดีทั้งสองฝ่าย
เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียนรู้เทคนิคและวิธีการอย่างไรที่จะ เอาชนะความกลัวและเรียนรู้ที่จะทำให้ได้ในสิ่งที่ชีวิตต้องการจริง ๆ เมื่อเราต้องเผชิญหน้ากับการเจรจาต่อรองที่อาจจะส่งผลต่อความขัดแย้ง
การมีปฎิสัมพันธ์หลัก ๆ ของเราทั้งในเรื่องการทำงานและความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวล้วนคือการเจรจาต่อรอง เพื่อแสดงออกถึงความต้องการของแต่ละฝ่ายทั้งสิ้น
การเจรจาต่อรองถูกสนองเพื่อไปใช้งานแตกต่างกันและสำคัญมากต่อชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการงาน การเงิน ชื่อเสียง ชีวิตรักหรือแม้แต่ชะตาชีวิตของคนในครอบครัว
ทักษะหนึ่งที่จะเป็นกุญแจสำคัญเพื่อมาช่วยในการปลดล็อกและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ดีที่สุดนั่นก็คือทักษะการรับฟังแบบไม่ตัดสิน
การรับฟังแบบไม่ตัดสินจึงเป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญมาก พูดง่ายแต่ทำยากมาก…เพราะเราต้องเรียนรู้ที่จะฟังมันด้วยหัวใจจริง ๆ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วเราจะไม่สามารถหาสาเหตุของปัญหาที่แท้จริงของอีกฝ่ายและแนวทางแก้ปัญหาได้ และวิธีการที่มาช่วยในการพัฒนาทักษะการฟังได้ดีที่สุด วิธีการหนึ่งที่ผู้นำหลายคนใช้ คือการฝึกสมาธิภาวนาวิปัสนากรรมฐาน
การภาวนาเป็นกระบวนการรับรู้ที่ไม่มีการตัดสิน
Meditation is really a process of nonjudgmental awareness
ขอให้มีความสุขกับการฝึกโยคะและการฝึกสมาธิภาวนาน้าา
ไม่มีวันนี้สองครั้ง
.
“You need to learn to be the last to speak.”



0 Comments